ตลาดและยอดขาย ของ นิสสัน ลีฟ

นิสสันได้จัดงานเปิดตัวลีฟอย่างเป็นทางการที่สำนักงานใหญ่ในโยโกฮามะเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2553[10] ลูกค้าชาวอเมริกันรายแรกได้รับรถที่ตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนียในวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2553[11] และลูกค้าชาวญี่ปุ่นได้รับรถครั้งแรกที่จังหวัดคานางาวะในวันที่ 22 ธันวาคม[12] การส่งมอบให้กับลูกค้ารายย่อยเริ่มขึ้นในไอร์แลนด์ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 ในสหราชอาณาจักรในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554 และในประเทศฝรั่งเศสในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2554[13][14][15] การส่งมอบให้กับลูกค้าองค์กรเริ่มขึ้นในโปรตุเกสในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2553[16] ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554[17] และในแคนาดาในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2554[18] การจัดส่งเริ่มต้นในสเปนและนอร์เวย์ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2554[19][20] ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2554[21] และในเยอรมนีในเดือนมกราคม พ.ศ. 2555[22][23] ถึงเดือนมกราคม พ.ศ. 2561 นิสสัน ลีฟมีจำหน่ายมากกว่า 60 ประเทศในสี่ทวีป[2]

ตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2553 นิสสันได้ขายลีฟ 49,117 คันทั่วโลกภายในสองปีแรกที่ได้เริ่มทำตลาด ทำให้ลีฟกลายเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มียอดขายมากสุดตลอดกาล[24]ด้วยยอดขายทั่วโลกมากว่า 22,000 หน่วยในปี พ.ศ. 2554[25] และลีฟก็มียอดขายนำมิตซูบิชิ ไอ ไมอีวีกลายเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มียอดขายสูงที่สุดในประวัติศาสตร์[26] ยอดขายลีฟทั่วโลกในปี พ.ศ. 2555 ได้ 26,973 หน่วย เพิ่มขึ้น 22% จากยอดขายปี พ.ศ. 2554 นำโดยในประเทศญี่ปุ่นด้วยยอดขาย 11,115 หน่วยซึ่งเพิ่มขึ้น 8% จากยอดขายปี พ.ศ. 2554 ตามด้วยประเทศสหรัฐอเมริกา 9,819 หน่วย เพิ่มขึ้น 1.5% จากยอดขายปี พ.ศ. 2554[27] ในช่วงครึ่งปีแรกของปี พ.ศ. 2555 ลีฟได้มีส่วนแบ่งตลาด 49% ของยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วนทั้งโลก[28] ยอดขายลีฟดำเนินมาถึง 50,000 หน่วยทั่วโลกในกลางเดือกมกราคม พ.ศ. 2556[29] ลีฟทั้งหมด 47,716 คันได้ถูกขายไปในปี พ.ศ. 2556 เพิ่มขึ้น 77% จากปี พ.ศ. 2555[30] และทำให้ลีฟเป็นรถยนต์เสียบปลั๊กที่ขายได้ดีที่สุดในโลกปี พ.ศ. 2556[31]

นิสสัน ลีฟเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มียอดขายมากที่สุดในโลก โดยยอดขายลีฟมากกว่า 300,000 หน่วยในเดือนมกราคม พ.ศ. 2561[2]

ถึงเดือนมกราคมปี พ.ศ. 2557 และหลังจากผ่านไปสามปีแล้วลีฟมียอดขายทั่วโลก 100,000 คันโดยมีส่วนแบ่งตลาด 45% ของรถยนต์ไฟฟ้าบริสุทธิ์ที่จำหน่ายทั่วโลกตั้งแต่ปี พ. ศ. 2553[32] ในช่วงปี พ.ศ. 2557 ลีฟมียอดขาย 61,507 หน่วยทั่วโลก[33] ลีฟได้รับการจัดอันดับให้เป็นรถเสียบปลั๊กที่ขายดีที่สุดในโลกเป็นปีที่สองติดต่อกันและจนถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2556[31] ยอดขายรวมทั้งหมดทั่วโลกทั้งสิ้นได้มากกว่า 158,000 หน่วยเมื่อสิ้นปี พ.ศ. 2557[34]

ยอดขายลีฟทั่วโลกได้ผ่าน 200,000 หน่วยในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2558[35][36] โดยยอดขายทั่วโลกทั้งสิ้น 43,651 หน่วยใน พ.ศ. 2558 ลดลง 29% จาก พ.ศ. 2557[37] ทำให้ลีฟกลายเป็นรถยนต์เสียบปลั๊กที่ขายได้เป็นอันดับสองของโลกรองจากเทสลา โมเดล เอส[31] ในปี พ.ศ. 2558 ประเทศสหรัฐอเมริกาตลาดใหญ่ของลีฟมียอดขาย 17,269 หน่วย ลดลง 42.8% จาก พ.ศ. 2557[38] ตามด้วยยอดขายในยุโรป 15,630 หน่วย[37]

นิสสัน ลีฟ รุ่นที่ 2 (ZE1)

ยอดขายทั่วโลกในปี พ. ศ. 2562 เพิ่มขึ้นเป็น 49,245 คันทำให้ลีฟเป็นรถที่ขายดีเป็นอันดับสองของโลกรองจากเทสลา โมเดล เอสเป็นปีที่สอง ยอดขายในปี พ.ศ. 2559 นำโดยยุโรป 18,718 คัน รองลงมาคือประเทศญี่ปุ่น 14,793 คัน อเมริกาเหนือ 15,512 คัน ส่วนที่เหลือของโลกคิดเป็น 222 คัน[31][39] ยอดขายลีฟทั่วโลกผ่าน 250,000 หน่วยในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2559[40] และถึง 300,000 หน่วยในเดือนมกราคม พ.ศ. 2561 ทำให้นิสสัน ลีฟกลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์[2] ถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2559 ประเทศสหรัฐอเมริกาได้เป็นตลาดที่ลีฟขายได้มากที่สุดด้วยยอดขาย 103,597 หน่วยที่ส่งมอบไปแล้ว[41][42] ตามมาด้วยประเทศญี่ปุ่น 72,494 หน่วย[43] และยุโรป 67,829 หน่วย[31][33][37] ตลาดทวีปยุโรปนำโดยประเทศนอร์เวย์ 19,407 คันที่จดทะเบียนใหม่ถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2559[41][44] เนื่องจากมีการนำเข้าสินค้าที่จดทะเบียนในประเทศเป็นจำนวนมาก โดยมีลีฟทั้งสิ้นประมาณ 27,500 คันบนถนนนอร์เวย์เมื่อสิ้นเดือนธันวาคม พ.ศ. 2559[44][45] ส่วนสหราชอาณาจักรเป็นอันดับสองด้วยยอดขาย 15,000 หน่วยในกลางเดือนกันยายน พ.ศ. 2559[46]

ใน พ.ศ. 2560 ในประเทศสหรัฐอเมริกา นิสสันได้จ่ายเงินโดยเฉลี่ย 16,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคันเพื่อกระตุ้นยอดขาย[47]

ตัวเลือกการเช่าแบตเตอรี่

ในตอนแรก ลีฟที่ขายในตลาดโลกทั้งหมดจะประกอบไปด้วยแพ็ตแบตเตอรี่และไม่สามารถแลกเปลี่ยนแบตเตอรี่ควิกดรอปที่พัฒนาโดยเรโนลท์ได้[48][49] เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2556 นิสสันประกาศว่าการขายนิสสัน ลีฟ รุ่นปี 2013 จะเริ่มในสหราชอาณาจักรในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2556 และจะมีตัวเลือกการเช่าแบตเตอรี่สำรับลีฟทั้งสามรุ่นย่อย ราคาสำหรับการเช่าแบตเตอรี่ในสหราชอาณาจักรเริ่มต้นที่ 70 ปอนด์ (~US$108) ต่อเดือน สำหรับการเช่า 36 เดือนจะจำกัดระยะทางการขับขี่ไม่เกิน 12,100 กิโลเมตร (7,500 ไมล์) ต่อปี และราคาสูงที่สุดสำหรับการเช่ามีราคา 129 ปอนด์ (~US$198) ต่อเดือน สำหรับการเช่า 12 เดือนจะจำกัดระยะทางการขับขี่ไม่เกิน 24,000 กิโลเมตร (15,000 ไมล์) ต่อปี การเช่าแบตเตอรี่นี้ทำให้ราคาของรุ่นเริ่มต้นถูกลงจนอยู่ที่ราคา 20,990 ปอนด์ (~US$32,230) ก่อนที่จะเข้าร่วมโครงการปลั๊ก-อิน คาร์ แกรนต์ซึ่งเป็นโครงการลดราคารถยนต์ที่เป็นรถยนต์ปลั๊ก-อิน[50][51]

ในหลายประเทศในยุโรปยกเว้น นอร์เวย์ ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์และกลุ่มตลาดบอลติกจะมีการเสนอทางเลือกในการเช่าซื้อซึ่งจะทำให้ลดราคาซื้อได้ถึง 5,900 ยูโร ค่าใช้จ่ายรายเดือนของแบตเตอรี่เริ่มต้นที่ 79 ยูโร (~US$103) สำหรับสัญญาเช่าระยะเวลา 36 เดือนไม่เกิน 12,500 กม. (7,800 ไมล์) ต่อปีโดยมีค่าใช้จ่ายไม่เกิน 142 ยูโร (~US$186) เป็นเวลา 12 เดือน และขับขี่ไม่เกิน 25,000 กิโลเมตร (16,000 ไมล์)[52]

ยอดขายทั่วโลก

ถึง มกราคม 2018[update] นิสสัน ลีฟมีวางจำหน่ายแล้วสำหรับลูกค้ารายย่อยในกว่า 60 ประเทศ[2] นับตั้งแต่เปิดตัวในปี พ.ศ. 2553 ได้มียอดขายกว่า 300,000 คันทั่วโลกจนถึงช่วงต้นเดือนมกราคมปี 2561 ทำให้ลีฟเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลกตลอดกาล[2] ถึง ธันวาคม 2016[update] ณ เดือนธันวาคมปี พ.ศ. 2559 สหรัฐอเมริกามียอดขายสูงสุด 103,597 หน่วย[41][42] ตาตมมาด้วยประเทศญี่ปุ่น 72,494หน่วย[43] และยุโรป 67,829 หน่วย[31][33][37] ตลาดยุโรปนำโดยประเทศนอร์เวย์มีลีฟที่จดทะเบียนใหม่ 19,407 จนถึงเดือนธันวาคม 2559[41][44][44][45] สหราชอาณาจักรครองอันดับที่สองด้วยยอดขาย 15,000 หน่วยภายในกลางเดือนกันยายนปี 2559[46]

ตารางต่อไปนี้แสดงการขายปลีกตามปีนับตั้งแต่การส่งมอบลีฟที่เริ่มขึ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2553

ยอดขายลีฟจากทั่วโลก
ระหว่าง พ.ศ. 2553 และ 2560
ประเทศรวมทั้งหมดพ.ศ. 2560พ.ศ. 2559พ.ศ. 2558พ.ศ. 2557พ.ศ. 2556พ.ศ. 2555พ.ศ. 2554พ.ศ. 2553
สหรัฐอเมริกา[38][53][54][55][56]114,82711,23014,00617,26930,20022,6109,8199,67419
ญี่ปุ่น[33][57][58][59]96,99916,92522,3759,05714,17713,02111,11510,31019
นอร์เวย์[60][61][62][63]22,7813,3744,1623,1894,7814,6042,298373 
สหราชอาณาจักร[64][65][66][67]22,3595,4634,4635,2364,0511,812699635 
ฝรั่งเศส[68]12,1132,3813,8872,2001,6001,43852483 
แคนาดา[69]5,5199461,3751,2331,085470240170 
เยอรมณี[70][71][72][73]4,9188411,1218318128554517 
จีน[74][75]4,032(1)1,9611,273582216   
เนเธอร์แลนด์[76][77][78][79]3,157513666447510462265294 
สวีเดน[80][81][82][83]3,542981836841438317129  
สเปน[84][85][86][87][88]2,15953034434446526315459 
อิตาลี[89][90][91][92][93]2,1034484603893323231465 
เดนมาร์ก[94]1,20220852245772117312 
ไอร์แลนด์[95][96][97][98][99]1,3662583524051924369452
เบลเยียม[100][101][102][103][104]1,51038946616217814111460 
ออสเตรีย[105]1,15138433315612188643
ออสเตเลีย[106][107][108][109]997(2)384156109(2)1731887719 
สวิตเซอร์แลนด์[110]8311311581451061787439 
ยอดรวม300,52444,81456,87343,35460,259 47,15226,24721,78540
ยอดขายทั่วโลกทั้งหมด[25][27][30][33][34][37]303,67843,65161,50747,71626,97322,09450
หมายเหตุ: (1) ยอดขายในประเทศจีนเป็นรถรุ่นเวนูเซีย อี30 (2) ยอดขายในออสเตเลียนับถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2558

แหล่งที่มา

WikiPedia: นิสสัน ลีฟ http://www.statistik.at/web_de/statistiken/energie... http://jcwinnie.biz/wordpress/?p=1702 http://ev-sales.blogspot.com.br/2015/01/australia-... http://www.ev-sales.blogspot.ca/2014/01/australia-... http://www.ev-sales.blogspot.ca/2014/01/belgium-de... http://www.ev-sales.blogspot.ca/2014/01/ireland-de... http://www.ev-sales.blogspot.ca/2015/01/belgium-de... http://www.ev-sales.blogspot.ca/2015/01/ireland-de... http://www.ev-sales.blogspot.ca/2015/01/italy-dece... http://www.ev-sales.blogspot.ca/2015/10/australia-...